อ.เฉลิมชัย เซอร์ไพร์สยิงพลุ 100 นัด ปิดฉากสุดท้าย“วัดร่องขุ่น ไลท์ เฟส”ยิ่งใหญ่อลังการ

อาจารย์เฉลิมชัย ทำเซอร์ไพร์สแอบยิงพลุ 100 นัดมอบเป็นของที่ระลึกให้ผู้ชมงาน “วัดร่องขุ่น ไลท์ เฟส ตอน ปฐมบท” (Wat Rong Khun Light Fest, Episode: Begins) หลังจากเปิดการแสดง 1 เดือนเต็ม รอบสุดท้ายปิดฉากความมหัศจรรย์ยิ่งใหญ่อลังการ สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติร่วมเชิดชูงานศิลปะสถาปัตยกรรมพุทธศิลป์ของไทย เป็นที่ชื่นชมกล่าวขานไปทั่วโลก รวมผู้ชม 25,000 คน สร้างเม็ดเงินสะพัดใหกับจังหวัดเชียงรายกว่า 740 ล้านบาท

โดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้สร้างวัดร่องขุ่น กล่าวว่า “..การจัดงานครั้งนี้เป็นการทำเพื่อประเทศชาติเพื่อโชว์ศักยภาพความงดงามของศิลปะไทยในเวทีระดับโลก ให้วัดร่องขุ่นเป็นที่กล่าวขานทั้งกลางวันและกลางคืน การทำไลท์เฟสสิ่งที่ต้องการคือการประสานกันระหว่างรูปวาดกับสถาปัตยกรรมโดยใช้แสง สี เสียงมาผสมกันทำให้เกิดอารมณ์ที่ยิ่งใหญ่ เกิดเป็นสุนทรียภาพและความงาม จริงๆแล้วงานนี้เหมาะกับชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย เพราะจะอินในเรื่องของอาร์ต อยากให้ชาวต่างชาติมาดูกันเยอะๆ เพื่อให้วัดร่องขุ่นเป็นที่กล่าวขานไปทั่วโลก อย่างงานเกาดี้ ที่บาร์เซโลน่า ทำไมคนทั้งโลกต้องแห่ไปดู Sagrada Familia ใน 130-140 ปีที่ผ่านมา นั่นคือตัวอย่างของงานศิลปะร่วมสมัย ไม่ต้องไปมองของเก่าอย่าง ทัชมาฮาล นครวัด หรือวาติกัน ฯเราต้องสร้างความยิ่งใหญ่ของงานศิลปะไทยสร้างสิ่งที่ช็อคคนทั้งโลก ดังนั้นลวดลายของวัดร่องขุ่นจึงเว่อร์วังและอลังการ เราพัฒนางานศิลปะไทยมาสู่ความเป็นบารอก ความอัศจรรย์ที่เป็นหนึ่งเดียวในโลกที่ยูนีคที่สุด และเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ส่วนการแสดงรอบสุดท้ายผมและวัดร่องขุ่นได้แอบยิงพลุกว่า 100 นัดมอบเป็นของที่ระลึกเซอร์ไพร์สให้กับผู้ชมรวมทั้งผู้จัดงาน และทีมนักแสดงเป็นการปิดฉากการแสดงอย่างยิ่งใหญ่สวยงามอลังการด้วย..”

ด้านนายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) และผู้อำนวยการสร้างสรรค์วัดร่องขุ่น ไลท์เฟส กล่าวว่า “..เป็นการทุ่มเททำงานนี้ให้ดีที่สุดเพราะว่าอาจารย์บอกทุกครั้งว่าให้ทำครั้งเดียวนะ เพราะถ้าเราทำงานศิลปะให้โด่งดังไปทั้งโลก อย่าง วัดร่องขุ่น THE WHITE TEMPLEหรือ “วัดสีขาว” ที่ติด 1 ใน 10 “วัดที่สวยที่สุดในโลก” ทุกอย่างจึงจัดเต็ม ตั้งใจบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์อย่างที่ THE WHITE TEMPLE ไม่ได้เป็น THE WHITE TEMPLE อีกต่อไปแต่เป็นงานศิลปะอีกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้น ต้องขอขอบคุณอาจารย์เฉลิมชัย ที่ได้ให้โอกาสบริษัทอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจเข้ามาทำงานนี้ และเชื่อว่าผมคงได้งานจากงานอื่นๆต่อไป ซึ่งในปีหน้า 2563 จะเน้นทำโอนโปรเจกต์มากขึ้น เป็นอีเว้นท์เชิงท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ๆเพราะเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และเน้นในกลุ่มเมืองรอง มีภาคเหนือและอีสานเป็นหลัก..”

“วัดร่องขุ่น ไลท์ เฟส” ถือเป็นงานวัดรูปแบบใหม่ที่จากความร่วมมือและความคิดสร้างสรรค์ของ 2 ครีเอเตอร์ ผู้ยิ่งใหญ่จาก 2 วงการ โดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ และนายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ที่ช่วยกันระดมความคิดสร้างสรรค์ไว้อย่างละเอียดละเมียดละไมครบเครื่องทุกมิติการแสดงแสง สี ดนตรี ที่สำคัญคือเทคโนโลยีมัลติมีเดียระดับโลก ที่นำมาผสมผสานพาดผ่านสถาปัตยกรรมพุทธศิลป์ชื่อดังก้องโลกถ่ายทอดสู่สุดยอดโชว์ได้อย่างกลมกลืน ผ่านการเล่าเรื่องราวแฝงปริศนาธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา และเส้นทางชีวิตที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรค และความเชื่อ ของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ สู่การเป็นศิลปินแห่งชาติผู้ยิ่งใหญ่ที่ทั่วโลกรู้จัก ในรูปแบบของมิวสิคัล ฯ สร้างแรงบันดาลใจได้แง่คิด ที่สำคัญคือการประกาศศักยภาพความงดงามวิจิตรตระการตาของศิลปะไทย ผ่านการผสมผสานเทคโนโลยีมัลติมีเดียระดับโลก สร้างประทับใจตราตรึงกับโชว์ที่ยิ่งใหญ่เพียงครั้งแรกและครั้งเดียวเท่านั้น ส่วนจะมีการจัดแสดงในปีต่อๆไปหรือไม่ขึ้นอยู่กับอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เป็นหลัก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น