รอง อธส.ลงพื้นที่จังหวัดพะเยา เปิดงานประชาสัมพันธ์การผลิตลิ้นจี่คุณภาพ (ลิ้นจี่ห่อ) พร้อมพบปะเกษตรกรในพื้นที่

ว่าที่ร้อยตรี ดร.สมสวย ปัญญาสิทธิ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นประธานเปิดงานประชาสัมพันธ์การผลิตลิ้นจี่คุณภาพ(ลิ้นจี่ห่อ) และการสัมมนาเครือข่ายเกษตรกรพะเยาก้าวไกล ข้าว ลิ้นจี่ ลำไย แคนตาลูป สู่ความเป็นเลิศ ณ สวนลิ้นจี่วิสาหกิจชุมชนอนุรักษ์ลิ้นจี่ห้วยป่ากล้วย ต.เจริญราษฎร์ อ.แม่ใจ จ.พะเยา โดยว่าที่ ร้อยตรี จำรัส  โสตถิกุล นายอำเภอแม่ใจ กล่าวต้อนรับ และนายนาวิน อินทรจักร เกษตรจังหวัดพะเยา กล่าวรายงาน การจัดงานครั้งนี้เพื่อพัฒนาส่งเสริมการผลิตและการเพิ่มมูลค่าพืชปลอดภัย/อินทรีย์ ได้แก่ ลิ้นจี่ ลำไย ข้าวและแคนตาลูป รวมทั้งเพื่อการประชาสัมพันธ์ของดีพะเยาที่ได้ขับเคลื่อนโดยศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธภาพการผลิต(ศพก.)และเครือข่าย /ระบบเกษตรแปลงใหญ่ ภายในงานได้จัดการสัมมนา/เวทีเสวนาเพื่อการพัฒนาด้านการเกษตร การจัดนิทรรศการการผลิตลิ้นจี่คุณภาพ การตลาดออนไลน์ การขนส่งโดยบริษัทไปรษณีย์ไทยจำกัดและการแสดง/จำหน่ายผลผลิต/ผลิตภัณฑ์กลุ่มเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน

ว่าที่ร้อยตรี ดร.สมสวย ปัญญาสิทธิ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า การห่อช่อผลลิ้นจี่ ทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิต สินค้าที่ได้มีคุณภาพและตลาดต้องการ ที่สำคัญเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น จากปี 2561 ที่ผ่านมาเกษตรกรจังหวัดพะเยาที่ห่อช่อผลลิ้นจี่ สามารถสร้างตลาดตกลงการซื้อขายล่วงหน้า ประกันราคากิโลกรัมละ 80 บาท ในขณะที่ลิ้นจี่ไม่ห่อช่อผล จำหน่ายได้เพียงกิโลกรัมละ 30 บาท นับว่าเป็นความสำเร็จของศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.)และการรวมตัวของเกษตรกรที่ทำระบบเกษตรแปลงใหญ่ลิ้นจี่จังหวัดพะเยาตามนโยบายของรัฐบาล ปัจจุบันได้ขยายผลในพื้นที่ มีเกษตรกรได้ทำการห่อช่อผลลิ้นจีไปแล้วกว่าร้อยละ 50 “ลดแตก ลดร่วง ราคาดี มีคุณภาพ Premium ด้วยการห่อช่อผลลิ้นจี่”

นายนเรศ ฝีปากเพราะ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ลิ้นจี่ เป็นผลไม้สำคัญทางเศรษฐกิจของภาคเหนือตอนบน แต่เกษตรกรก็มีความเสี่ยงในด้านการผลิตคือผลแตกและร่วง การห่อช่อผลลิ้นจี่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าว อีกทั้งยังได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงเกรดPremium สีสวยและราคาดี

วิธีการห่อช่อผลลิ้นจี่ เกษตรกรควรห่อช่อผลในระยะที่ลิ้นจี่เริ่มเข้าสีคือมีสีแดงประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ (ช่วงประมาณต้นเดือนเมษายน) โดยใช้กระดาษโคบอนสีขาว ขนาด 38 X 54 เซนติเมตร โดยพับครึ่งกระดาษ แล้วทากาวแป้งเปียกติดขอบกระดาษในลักษณะพับถุง เปิดหัว-ท้าย จากนั้นตัดแต่งช่อผลและใบ โดยตัดแต่งผลลิ้นจี่ที่มีลักษณะไม่ได้คุณภาพ ไม่สมบูรณ์และเป็นโรคออก รวบช่อผลและใช้มืออีกข้างสอดถุงกระดาษเลื่อนขึ้นปิดช่อไม่ให้ผลโผล่ จากนั้นรวบปากถุงด้านบนมัดด้วยตอก โดยไม่ต้องรัดให้แน่นเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ การห่อช่อผลในลักษณะนี้ จะช่วยป้องกันโรคแมลงและหนอนเจาะขั้ว ป้องกันผลแตกร่วง ทำให้ได้ลิ้นจี่คุณภาพเกรด Premium “ไหล่ยก อกตั้ง ก้นป้าน ร่องลึก เนื้อกอด ในแห้ง กลิ่นหอม รสหวาน” สำหรับกระดาษโคบอนที่ใช้ห่อช่อผลนี้ จะใช้ได้ 2-3 ฤดูกาลผลิต ทนต่อแรงลมไม่ฉีกขาดง่าย เมื่อเจอฝนน้ำซึมผ่านแห้งเร็ว  หลังจากห่อช่อผลแล้วประมาณ 30 วันก็เก็บเกี่ยวจำหน่ายได้ราคาดีและหยุดพ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช 15 วันก่อนการเก็บเกี่ยว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น