“World Tea & Coffee Expo 2022” เปิดแล้ววันนี้งานชากาแฟใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. พร้อมแล้วกับการจัดงานแสดงสินค้าชา กาแฟ ระดับนานาชาติ World Tea and Coffee Expo ครั้งที่ 2 ชูไฮไลท์ไฮบริดอีเว้นท์ ตอบโจทย์งานแสดงสินค้ายุคนิวนอร์มอล เน้นความปลอดภัย มั่นใจภาคเหนือของประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการผลิต และการค้าชาและกาแฟระดับโลก โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ศูนย์การประชุมเอ็มเพรส โรงแรมดิเอมเพรส จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีนายประสงค์ หล้าอ่อน เป็นประธานเปิดงาน และนางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวรายงาน

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า งาน World Tea and Coffee Expo ในครั้งนี้จะดำเนินการในรูปแบบผสมประสานหรือไฮบริด เพื่อตอบโจทย์งานแสดงสินค้ายุคนิวนอร์มอล มีการวางแผน ตามมาตรการเฝ้าระวังและติดตามการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้จัดงานแสดงและผู้เข้าร่วมงานทุกท่านเป็นสิ่งสำคัญ งาน WTCE2022 จัดภายใต้คอนเซ็ปท์  “From Local to Global” คือสร้างความร่วมมือและเครือข่ายทางธุรกิจของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชา-กาแฟในประเทศไทยตลอดห่วงโซ่การผลิต การพัฒนาศักยภาพเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้แปรรูป ผู้ประกอบการ ฯลฯ โดยรูปแบบของการจัดงานจะแบ่งเป็น  3 ส่วน กล่าวคือ งานแสดงสินค้า งานประชุม และจับคู่ธุรกิจ

ในงานแสดงสินค้าได้รวบรวมผู้แสดงสินค้าชั้นนำ 50 ราย ประกอบด้วยผู้จัดแสดงผลิตภัณฑ์และบริการชา กาแฟในประเทศ 45 ราย ตั้งแต่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ที่เป็นแหล่งปลูกพืชเศรษฐกิจ และอีก 5 รายเป็นผู้แสดงจากต่างประเทศ/ ตัวแทนจำหน่ายในไทย

ด้านงานประชุมชา กาแฟ ระดับนานาชาติ ผ่านองค์ความรู้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลาย โดยผู้เชียวชาญ ไทย10 ท่าน และต่างประเทศ 20 ท่าน อาทิ จีน ญี่ปุ่น เมียนมาร์ เวียดนาม เนปาล อินเดีย กัวเตมาลา ฯลฯ ผ่าน 6 หัวข้อ ในรูปแบบ Hybrid คือผ่านระบบซูม (Zoom) และบนสถานที่จริง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาเข้าถึงสาระ ความรู้ และข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการผลิต แนวโน้มตลาดและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด ส่วนการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เปิดโอกาสให้ผู้ขายได้พบกับผู้ซื้อแบบตัวต่อตัว เพื่อต่อยอดการค้า การลงทุน โดยมีผู้ซื้อมาจากทั่วประเทศ

นางศุภวรรณ กล่าวต่อไปว่า นอกจาก 3 ส่วนที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีกิจกรรมสำหรับคนรักชา กาแฟ คือจะมีการสาธิตรูปแบบการชงชาและกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมชมเทคนิคการชงกาแฟซิกเนเจอร์โดยแชมป์บาริสต้าจากกรุงเทพและบาริสต้าจากภาคเหนือ

งาน WTCE2022 จะเป็นการเติมเต็มภาพความพร้อมของห่วงโซ่ธุรกิจชากาแฟของภาคเหนือโดยมีเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมกาแฟคุณภาพสูง และเชียงรายเป็นแหล่งชาชั้นเลิศ และคาดหวังว่าโครงการนี้จะสามารถสร้างแบรนด์จุดหมายปลายทาง (Destination Branding) ของทั้งจังหวัดเชียงใหม่ และเชียงรายในการเป็นเมืองชากาแฟ ให้เด่นชัดขึ้น ทีเส็บมุ่งมั่นใจอย่างยิ่งที่จะปั้นให้โครงการ World Tea and Coffee Expo เป็นต้นแบบการใช้งาน MICE เป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นให้ภูมิภาคนี้เป็นศูนย์กลางการผลิต การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับกาแฟและชาในระดับโลก

“คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1,000 ราย และมีเงินสะพัดภายในงานแสดงสินค้าตลอด 4 วัน เป็นมูลค่ากว่าสิบล้านบาท และจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้ผลิตกาแฟ และชาในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน” นางศุภวรรณ กล่าวปิดท้าย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น