ประเพณีสลากย้อมอัตลักษณ์ “หนึ่งเดียวในโลก” จัดอย่างยิ่งใหญ่ ที่จังหวัดลำพูน

นายนพดล  ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. นำเสนอการชูภาพลักษณ์ความเป็นวิถีไทย ภายใต้แนวคิด  Amazing Thailand Go Local และให้ความสำคัญกับกิจกรรมที่มีเสน่ห์ด้านวัฒนธรรม และประเพณีที่มีเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัว ของพื้นที่กับงาน “ประเพณีสลากย้อม เมืองลำพูน” ซึ่งกำหนดจัดระหว่างวันที่ 11 – 13 กันยายน 2562 ณ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ศูนย์รวมความศรัทธาของชาวลำพูน

นายนพดล  ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวถึง งานประเพณีสลากย้อมจังหวัดลำพูน เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือของจังหวัดลำพูน องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน  สภาวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน เทศบาลเมืองลำพูน วัดพระธาตุหริภุญชัย พี่น้องชาวลำพูน และ ททท. นับเป็นงานประเพณีที่มีความเป็นมาและสร้างเสน่ห์ให้กับชุมชนเป็นอย่างยิ่ง งาน “สลากย้อม” เป็นประเพณีที่มีอัตลักษณ์แห่งเดียวในโลก โดยมีรากฐานมาจาก “ชาวยอง” หรือกลุ่มชาติพันธุ์ลื้อจากสิบสองปันนา ก่อนจะอพยพมาอยู่ที่เมืองยองในพม่าและย้ายมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในจังหวัดลำพูนเมื่อประมาณ 200 กว่าปีที่แล้ว 

ประเพณีสลากย้อมเมืองลำพูน เป็นส่วนสำคัญของงานประเพณี “ทานสลากภัตร” ซึ่งเป็นการทำบุญประจำปีก่อนออกพรรษา คนล้านนามักจะจัดทานสลากภัตรในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 “สลากย้อม” เป็นการถวายทานเพื่อเป็นพุทธบูชาของหญิงสาว บางพื้นที่จำเพาะเจาะจงว่าต้องเป็นหญิงสาวที่มีอายุ 20 ปีเท่านั้น ขณะที่บางพื้นที่ไม่จำเป็น ขอให้เป็นช่วงอายุ 20 ปี โดยประมาณอาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าสัก 2-3 ปีก็ได้ แต่สิ่งที่เชื่อเหมือนกันก็คือต้องเป็นหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงาน และเชื่อกันว่าการถวายสลากย้อมของหญิงสาวได้รับอานิสงส์ผลบุญสูงยิ่ง เทียบเท่ากับการบวชของผู้ชาย

ลักษณะพิเศษของทานสลากย้อมคือ การนำประวัติของหญิงสาวที่เป็นเจ้าภาพของงาน หรือเป็น   “ผู้ทานสลากย้อม” มาแต่งเป็นคำประพันธ์ นำมาผูกเล่าทำนองโบราณเป็นเรื่องตั้งแต่เกิด จนถึงปัจจุบัน เพื่อให้คนที่มาเที่ยวได้รับรู้ถึงประวัติและความดีงามของผู้ทานสลากย้อม ลักษณะเช่นนี้เหมือนกับการ เรียกขวัญ (ฮ้องขวัญ) นาค ที่กำลังจะบวช ซึ่งตามประเพณีล้านนา จะมีการเล่าเป็นทำนองเทศน์ล้านนา บอกเล่าประวัติของผู้ที่กำลังจะบวชให้รู้ว่า เป็นผู้ที่กำลังทำความดี สละทุกอย่าง เพื่อก้าวเข้าสู่บวรพระพุทธศาสนา

รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ กล่าวเพิ่มเติมถึงงานประเพณีสลากย้อมที่กำลังจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 – 13  กันยายนนี้ จะมีการ “ประกวดต้นสลากย้อม สูงไม่เกิน 12 เมตร” เป็นการประกวดการสร้างสลากย้อมที่สมบูรณ์ มีคติความเชื่อในเรื่องศาสนาและความงดงามของการสร้างสลากย้อมที่เน้นความสวยงาม ประณีต บรรจงแต่ทรงคุณค่า ลงตัวในรูปทรงและการใช้วัสดุท้องถิ่นมาเป็นองค์ประกอบ “ขบวนแห่ต้นสลากย้อมสูง 8 เมตร และสูง 4 เมตร” แห่จากหน้าศาลากลางจังหวัดลำพูน ผ่านถนนอินทยงยศ ถึงแยกประตูลี้ผ่านถนนรอบเมืองในเข้าสู่วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร โดยมีเจ้าภาพ ผู้มีจิตศรัทธาที่จะทำทานสลากย้อมออกค่าใช้จ่ายและให้ศรัทธาหัววัดต่างๆ เป็นผู้จัดสร้าง พร้อมจัดขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่งดงาม มีคนในชุมชนมาร่วมกันทั้งหมู่บ้าน โดยมีเจ้าภาพสลากย้อมเป็นผู้เดินนำหน้าต้นสลากย้อม และเล่าประวัติผู้ถวายทานด้วยทำนองโบราณที่เรียกว่า “ฮ่ำกะโลง” พร้อมการแสดงประกอบตลอดทาง และในวันที่ 12 กันยายน 2562 จะมีพิธีทานต้นสลาก และการแสดงแสง เสียงและสื่อผสม เรื่อง “ข้าเจ้าจะทานสลากย้อม” นำเสนอเรื่องความพยายามของหญิงสาวชาวลำพูน ย้อนไปเมื่อ 50 ปี   ที่ผ่านมา ที่จะถวายทานสลากย้อมให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต เรื่องราวของการแสดงสะท้อนให้เห็นกระบวนการคิดและความศรัทธาของคนในยุคนั้นที่มีต่อการทานสลากย้อม ผสมผสานกับวัฒนธรรมที่งดงามผ่านการเล่าเรื่องตั้งแต่กระบวนการสร้างสลากย้อมและขั้นตอนการเตรียมการ จนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการถวายทานสลากย้อม

นอกจากนักท่องเที่ยวที่มาร่วมชมงานประเพณีสลากย้อมแล้ว ไม่ควรพลาดแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงด้วยการนั่งรถรางชมเมืองหละปูน เริ่มจาก “วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวลำพูนและชาวภาคเหนือตั้งแต่อดีต ซึ่งเป็นจุดจอดรถและเริ่มต้นของรถราง พร้อมชม “พิพิธภัณฑ์ชุมชนเทศบาลเมืองลำพูน” อาคารเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี บอกเล่าประวัติความเป็นมาอันยาวนานของเมืองลำพูน “คุ้มเจ้ายอดเรือน” เรือนพักอาศัย ที่เจ้าหลวงจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าผู้ครองนครลำพูนองค์สุดท้าย สร้างขึ้นเพื่อมอบให้แก่เจ้ายอดเรือน ชายาองค์สุดท้าย เมื่อปี พ.ศ.2470 มีความเก่าแก่และยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ค่อนข้างสมบูรณ์ ต่อด้วย “อนุสาวรีย์พระนางจามเทวี วัดจามเทวี” วัดเก่าแก่ที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยล้านนาไทย และ “วัดมหาวัน” ต้นกำเนิดของพระรอดลำพูน พระเครื่องที่เลื่องลือในหมู่เซียนพระ สร้างมาแต่ครั้งพระนางจามเทวีขึ้นครองนครหริภุญชัย ในราว พ.ศ.1200 และ “วัดพระคงฤาษี”  ในวัดนี้มี “พระคง”   พระเครื่องที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่นับถืออีกองค์หนึ่งของเมืองลำพูน ถัดมาคือ “วัดสันป่ายางหลวง” เป็นวัดที่ติด 1 ใน 5 วัดสวยที่สุดในประเทศไทย ภายในวัดมีการแกะสลักลวดลายปูนปั้นไว้อย่างวิจิตรงดงาม ยังมี “โบราณสถานกู่ช้าง กู่ม้า” หรือสุสานช้างศึก-ม้าศึก คู่บารมีของพระนางจามเทวี และเป็นที่ศรัทธาของชาวลำพูน เมื่อต้องการสมหวังในสิ่งใดผู้คนก็มักจะมาขอพรกัน “วัดพระยืน” ที่มีเจดีย์    พระยืนเป็นศิลปกรรมพม่าที่มีความงดงาม  จากนั้นและปิดท้ายทริป รถรางกันที่วัดต้นแก้ว ชมศูนย์หัตถกรรมผ้าทอ ยกดอกลำพูน ณ วัดต้นแก้ว แล้วคุณจะรู้ว่า เมืองเล็กๆ อย่างลำพูน มีอะไรมากมายกว่าที่คุณคิด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น