เริ่มระเบิดหลุม เปิดการแข่งขันกอล์ฟ เชียงใหม่ กอล์ฟเฟสติวัล แชมเปี้ยนชิพ 2018 สนามที่ 1

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ ร่วมกับสมาคมกอล์ฟรีสอร์ทภาคเหนือ และสนามกอล์ฟชั้นนำในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน จัดโครงการส่งเสริมตลาดกอล์ฟ “Chiang Mai Golf Festival” ภายใต้โครงการ “Chiang Mai Sports Festival 2018” ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2561

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ สนามนอร์ทฮิลล์กอล์ฟคลับ มีการแข่งขันกอล์ฟ เชียงใหม่ กอล์ฟเฟสติวัล แชมเปี้ยนชิพ 2018 สนามที่ 1 โดยมีนักกอล์ฟทั้งชาวไทยและต่างชาติร่วมแข่งขันเป็นจำนวนมากโดย นฤชา มาลีเดช ชนะเลิศ โอเวอร์ออล โลว์กรอส 38-38-76 (6) เดินตบเท้าได้รับสิทธิ์เข้าไปร่วมการแข่งขัน ไทยแลนด์กอล์ฟเฟสติวัล ปลายปีนี้ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรีและในสนามนี้ยังอีก 1 คนเป็นการจับฉลากจากผู้ชนะเลิศ 3 ไฟลท์ คือชาญชิต คำเลิศ ผู้ชนะเลิศไฟลท์ เอ ที่ได้รับสิทธิ์เข้าไปร่วมการแข่งขัน ไทยแลนด์กอล์ฟเฟสติวัลอีกด้วย

ผลการแข่งขัน เชียงใหม่ กอล์ฟเฟสติวัล แชมเปี้ยนชิพ 2018 สนามที่ 1 มีดังนี้

ไฟลท์ เอ (0-9) ชนะเลิศ ชาญชิต คำเลิศ 41-39-80 (9) 71

ไฟลท์ บี (10-18) ชนะเลิศ สากล นิบเป้า 37-44-81 (14) 67, รองชนะเลิศ บรรพต ณ ลำพูน 39-42-81 (11) 70, อันดับที่ 3 ชูชาติ ใจมั่น 40-43-83 (13) 70

ไฟลท์ ซี (19-24) ชนะเลิศ เจริญไชย ไชยวงศ์ 43-49-92 (20) 72 รองชนะเลิศ ไพโรจน์ สุระศิรานนท์ 49-47-96 (24) 72 อันดับที่ 3 ไชยวัฒน์ ไชยวงศ์ 44-48-92 (19) 73

โดยตอนเย็นในวันเดียวกัน ได้มีการมอบรางวัลการแข่งขันสนามแรกและจับรางวัลของที่ระลึก โดย ปิ่นนาถ เจริญผล  ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ พร้อมกับผู้สนับสนุนอย่างมากมาย

นางปิ่นนาถ เจริญผล ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน มีสนามกอล์ฟที่เปิดให้บริการหลากหลายสไตล์ ซึ่งถือว่ามีศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติให้เข้ามาใช้บริการได้เป็นจำนวนมาก จนปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในกลุ่มนักกอล์ฟว่าเป็น “The New Golf Destination” นอกจากนี้เชียงใหม่ยังมีความโดดเด่นทางด้านที่พัก การให้บริการสปา และนวดเพื่อสุขภาพที่เป็นเอกลักษณ์แบบล้านนาที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติอีกด้วย ซึ่งในปีที่ผ่านมามีนักกอล์ฟเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 3 หมื่นกว่าคน สร้างรายได้หมุนเวียนในจังหวัดเชียงใหม่ และลำพูน ถึง 40 กว่าล้านบาท โดยในปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม และสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา รวมถึงช่วยสร้างการรับรู้ว่าเชียงใหม่เป็นเมืองแห่งกอล์ฟของประเทศไทยอีกแห่งหนึ่งด้วย

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น